top of page
ค้นหา


ree

จาก pinterest

blogนี้


“ความเหงา” ผมรู้ว่าทุกคนเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักความเหงากัน


“ความเหงา” เป็นอารมณ์ที่ทุกข์ทรมานและให้ผลร้ายแรงที่สุดอารมณ์หนึ่ง ส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ เป็นที่มาของความรู้สึกซึมเศร้า ให้ผลในสมองเช่นเดียวกับการเกิดความเจ็บปวดทางกาย

ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ซึ่งปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงคนเข้าด้วยกันเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่ความตลกร้ายคือ ในยุคที่เหมือนว่าจะมีการเชื่อมโยงกันมากที่สุด กลับเป็นยุคที่ คนเหงาที่สุด อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น อัตราการเกิดโรคซึมเศร้า และ waiting list รอเจอจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาในโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาวะต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่น่าตกใจ มันจึงทำให้ผมเกิดคำถาม มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกปัจจุบันของเรา? ทำไมเราถึงเหงาได้ขนาดนี้ แม้ว่าจะมีผู้คนรอบกายมากมาย? แล้วเราจะพาตัวเองออกจากความเหงานี้ได้อย่างไร?


ree

จาก pinterest

“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” คนเราทุนคนล้วนมีความต้องการที่จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ได้รับการยอมรับ และเชื่อมโยงกับใครสักคน ในระดับที่ลึกซึ้งเพียงพอที่จะรู้สึกว่ามี “คนที่เข้าใจ” ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนล้วนอยากได้สิ่งนี้เป็นที่พักพิงใจ ในยุคสมัยนี้ที่มีเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงคนเข้าด้วยกัน ทำให้จำนวนคนที่เรารู้จักและผ่านเข้ามาในชีวิตมากยิ่งขี้นเช่น Facebook Instagram Twitter และสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ช่วงวัยรุ่นซึ่งเป็นช่วงที่ใช้เวลาเข้าสังคมค่อนข้างมาก กลับเป็นช่วงอายุที่มีความเหงามากที่สุด ลำดับต่อไปผมจะให้สาเหตุว่าทำไมมันจึงเป็นเช่นนี้กันนะครับ "รากของความเหงาที่ทรมาน ไม่ได้มาจากการมีเพื่อนน้อย แต่มาจากการขาดความสัมพันธ์ที่ดีต่างหาก" จากประสบการ์ณของผมและความคิดของผม พบว่าความเหงาสามารถแบ่งเป็น 2 แกนหลักๆ คือ “ความเหงาทางสังคม”และ “ความเหงาทางอารมณ์” ซึ่ง ความเหงาทางสังคม หมายถึง ความรู้สึกไม่พอใจกับจำนวนของผู้คนที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย พูดง่ายๆ คือ รู้สึกมีเพื่อนน้อย ในขณะที่ ความเหงาทางอารมณ์ หมายถึง ความรู้สึกไม่พอใจกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากมีความสัมพันธ์คุณภาพ จะไม่ค่อยมีความเจ็บป่วยทางใจ เท่าไหร่ ในขณะที่ผู้ที่มีเพื่อนมากแต่ขาดความสัมพันธ์ที่ดี และผู้ที่ทั้งมีเพื่อนน้อยและความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพก็น้อย ระดับสุขภาวะทางจิตนั้นต่ำลงไปอย่างมาก อีกทั้งมียังความเหงาทางอารมณ์ในระดับที่เข้มข้น ก็จะมีความเกี่ยวเนื่องกับภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวลโดยตรง เป็นที่น่าสนใจกว่าเลยว่า การมีความสัมพันธ์แบบมีสถานภาพ เช่น มีแฟน มีสามีภรรยา ที่เจอหน้า กินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้คือความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพนะ บุคคลเหล่านี้ก็ยังสามารถเหงาได้อยู่ จริงไหมล่ะครับคุณผู้อ่าน เราทุกคนล้วนต้องการใครสักคนที่อยู่เคียงข้างเรา ไม่ว่าในยามสุขหรือทุกข์ร่วมกัน แต่ว่า ในยุคสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น เราก็หันไปพูดคุยกับคนผ่านหน้าจอมือถือกันมากขึ้น จนได้คำเรียกลักษณะสังคมยุคนี้ว่า “สังคมก้มหน้า” การคุยกันแบบหน้าต่อหน้าน้อยลง ส่งผลให้เราไม่ค่อยได้พัฒนาทักษะการพูดคุยแบบหน้าต่อหน้ากันและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้าสิ่งดีๆในความสัมพันธ์ อีกทั้งยังเป็นเครื่องฝึกฝนให้เรารู้จักการรักษาระดับการ “พูด” และ “ฟัง” อีกด้วย

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา เราก็หันไปเคยชินกับการสื่อสารแบบทางเดียวมากขึ้น เช่น พิมพ์ status ลงเฟซบุ๊กสื่อสารไปสู่คนหมู่มาก ไลน์ไปหาอีกฝ่ายโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอการตอบสนองในทันที และมันก็เป็นการง่ายอีกเช่นกันที่จะไม่ต้องฟังให้จบ ซึ่งทำให้เกิดการสื่อสารที่เข้าใจผิดซึ่งกันเลยกันก็ได้

ดังนั้น เมื่อกลับมาพิจารณาที่เกิดขึ้นเพียงแค่หน้าจอ ความสัมพันธ์มันจึงยากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์สู่ระดับที่ไว้ใจกัน ซึ่งต้องใช้การสื่อสารอย่างเปิดใจ การรับฟัง ความเคารพ ความสนใจในสิ่งที่คนตรงหน้าจะพูดโดยไม่จ้องจะตัดสินหรือพะวงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองจะโต้ตอบคนตรงหน้า 

สรุปแล้วไม่ว่าจะเกิดความเหงาแบบไหน ทั้งนี้ สามารถริเริ่มได้ด้วยการหันมาใช้เวลาแบบต่อหน้า (face to face) กับคนรอบข้างมากขึ้น อาจจะเริ่มง่ายๆ ด้วยการกันเวลาส่วนหนึ่งออกมาจากการใช้โซเชียลมีเดีย มาพูดคุยกันแบบต่อหน้ามากขึ้น หากิจกรรมที่ทำให้ได้อยู่ด้วยกันสำหรับเพื่อนๆที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่ค่อยเข้ากับใคร รู้สึกเหมือนว่าคนอื่นๆ ชอบมองเราแปลกๆ และปฏิเสธเราบ่อยๆ จนเรารู้สึกเจ็บปวดที่จะไปเจอผู้เจอคน แต่ในใจลึกๆ ก็เหงา (แม้จะเจ็บจนแทบไม่อยากคุยกับคนแล้วก็ตาม) ลองให้คุณกล้ามากยิ่งขึ้นบางที เขาก็อาจจะเก็บความรู้สึกที่คล้ายกันอยู่ก็ได้ การริเริ่มบทสนทนา เป็นการทั้งช่วยเหลือตัวเอง และอาจจะช่วยคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน และไม่แน่ว่า การคุยครั้งแรก อาจนำไปสู่ความสัมพันธ์คุณภาพระยะยาวเลยก็ได้ ดังนั้น ก็ขอเป็นกำลังใจในการกลับมาเติมเต็มความอบอุ่นในใจให้กับคนที่ผ่านเข้ามาอ่านครับ ขอให้ได้เจอพื้นที่ปลอดภัยในการเป็นตัวของตัวเอง และสามารถเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะโดนตัดสิน ผมเชื่อว่า เมื่อเราให้โอกาสตัวเองในการได้เปิดใจกับคนอื่นแล้ว สักวัน เราจะเจอสิ่งที่เราค้นหาแน่นอนครับ


ree

จาก pinterest

ขอบคุณรูปจาก pinterest

 
 
 
  • สีเทาไอคอน Instagram
  • สีเทาไอคอน Facebook
  • สีเทาทวิตเตอร์ไอคอน
  • สีเทาไอคอน YouTube

© 2023 by Designtalk. Proudly created with Wix.com

bottom of page